สมัยกรุงธนบุรี
ในปี พ.ศ. ๒๓๑๙ รัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี
ท้าวเชียงและท้าวสูนเห็นว่าเมืองทุ่งมีชัยภูมิไม่เหมาะ เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซ
(ลำน้ำเสียว) ถูกน้ำเซาะตลิ่งพังทุกปี
จึงได้ย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่ ดงท้าวสารและเรียกชื่อใหม่ว่า "เมืองสุวรรณภูมิ" ท้าวเชียงได้สร้างวัดขึ้นสองวัด
คือวัดกลางและวัดใต้ สร้างวิหารกว้างห้าวา ยาวแปดวา สูงหกวา
สร้างพระพุทธรูปด้วยอิฐและปูนลงรักปิดทอง หน้าตักกว้างสี่ศอกคืบ สูงแปดศอกคืบ
เหมือนกันทั้งสองวัด
ปี พ.ศ. ๒๓๑๘
ท้าวทนซึ่งอพยพครอบครัวและไพร่พลไปอยู่ที่บ้านกุดจอก
ได้ปรึกษาหารือกับพระยาพรหมและพระยากรมท่าขออนุญาตทั้งบ้านกุ่มร้างซึ่งเป็นเมืองร้างขึ้นเป็นเมือง
พระยา
พรหมและพระยากรมท่าเห็นว่าท้าวทนมีสมัครพรรคพวกมาก
จะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง จึงมีใบบอกไปยังกรุงธนบุรี ขอพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างเมืองขึ้นที่บ้านกุ่มร้างและให้ชื่อว่า "เมืองร้อยเอ็ด"
ตามนามเดิมและให้ท้าวทนเป็นพระขัติยะวงษาเจ้าเมืองคนแรก
การสร้างเมืองร้อยเอ็ดขึ้นก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้แบ่งเขตเมืองสุวรรณภูมิกับเมืองร้อยเอ็ด
ดังปรากฏในพงศาวดารว่า "ตั้งแต่ปากลำน้ำพาชี ตกลำน้ำมูล
ขึ้นมาตามลำน้ำพาชีถึงปากห้วยดางเดียขึ้นไปทุ่งลาดไถ ไปบ้านข้อเหล็ก
บ้านแก่งทรายหิน ตั้งแต่ถ้ำเต่าเหวฮวดดวงสวนอ้อย บึงกุย ศาลาอีเก้ง ภูเมง
หนองม่วงคลุ้ม กุ่มปัก ศาลาหักมูลแดง ประจบปากลำน้ำพาชีตกลำน้ำมูลนี้
เป็นเขตเมืองสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ลำน้ำยางตกลำน้ำพาชีขึ้นไป ภูดอกซ้อน หินทอด ยอดยาง ดู่สามต้น อ้นสามขวาย
สนามหมาดหญ้า ผ้าขาวพันนา ฝายพระยานาค ภูเมง มาประจบหนองแก้ว ศาลาอีเก้ง มาบึงกุยนี้
เป็นอาณาเขตเมืองร้อยเอ็ด"
ตามข้อความในพงศาวดารที่ยกมา
พอสรุปอาณาเขตเมืองสุวรรณภูมิและเมืองร้อยเอ็ดได้ดังนี้
อาณาเขตเมืองสุวรรณภูมิ
ทิศเหนือ จดลำน้ำชี ทุ่งลาดไถ
บึงกุย (อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม)
ทิศใต้ จดลำน้ำมูล
ทิศตะวันออก จดลำน้ำมูล
ลำน้ำชี
ทิศตะวันตก จดอำเภอภูเวียง อำเภอชนบท
จังหวัดขอนแก่น
อาณาเขตเมืองร้อยเอ็ด
ทิศเหนือ จดอำเภอพรรณานิคม
จังหวัดสกลนคร อำเภอหนองหาร จังหวัดอุดรธานี
ทิศใต้ จดทุ่งลาดไถ
ไปอำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
ทิศตะวันออก จดลำน้ำยัง
ภูพาน
ทิศตะวันตก จดอำเภอภูเวียง
อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
จังหวัดร้อยเอ็ดยุคปัจจุบันจึงตั้งเป็นเมืองขึ้นมาในสมัยกรุงธนบุรี
อันสืบเนื่องมาจากเมืองสุวรรณภูมิ
แต่ที่ตั้งเมืองร้อยเอ็ดเป็นเมืองร้างซึ่งคาดว่าคงเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองก่อนที่จะถูกทอดทิ้งให้เป็นเมืองร้างด้วยเหตุประการใดก็ตาม
จากพงศาวดารแบ่งเขตเมืองสุวรรณภูมิและเมืองร้อยเอ็ด
จะเห็นได้ว่าทั้งเมืองสุวรรณภูมิและเมืองร้อยเอ็ดมีอาณาเขตกว้างใหญ่
ซึ่งต่อมาภายหลังได้แบ่งแยกท้องที่ตั้งเมืองอื่น ๆ ขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น